Reverb (เล่าในเชิงการใช้งาน). ผมจะเล่าในแบบของ “ผู้ใช้งาน” นะครับ…

ต้าร์ lovestudy

Follow

--

ผมจะเล่าในแบบของ “ผู้ใช้งาน” นะครับ จะไม่พูดถึงข้อมูลทางเทคนิค รีเวิร์บมีมากมายหลายยี่ห้อให้เราเลือกใช้ มีทั้งแบบปลั๊กอินและแบบฮาร์ดแวร์ครับ แต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นก็จะให้เสียงที่แตกต่างกันออกไป

ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีดิจิตอลรีเวิร์บเนี่ย ต้องเอาลำโพงมาเปิดแล้วตั้งไมค์อัดเอาเสียงบรรยากาศกันจริงๆเลยนะครับ ซึ่งในสมัยนี้ก็จะสบายขึ้นมาหน่อย มีดิจิตอลรีเวิร์บ ไม่ต้องลำบากขนาดนั้น ถ้าใคร need ความธรรมชาติ ความ vintage หากที่บ้านหรือที่ทำงานมีห้องที่เสียงสะท้อนแจ่มๆ ก็สามารถเอาลำโพงไปตั้งเปิด source แล้วตั้งไมค์บันทึกเอาบรรยากาศตรงนั้นมาใช้จริงๆก็ได้ครับ หรือจะใช้วิธีการไปเก็บ IR มาก็ได้ เพื่อให้ซอฟต์แวร์สร้างรีเวิร์บจาก IR ของสถานที่นั้นๆให้ ก็จะได้รีเวิร์บที่เสียงเสมือนกับสถานที่นั้นๆครับ ผมจะไม่เล่าถึงรายละเอียดส่วนนี้นะครับ(ถ้าใครสนใจ ยูทูปมีคนทำคลิปสอนเยอะแยะเลยครับ) 🙂

มาพูดถึงประเภทของรีเวิร์บกันเลยดีกว่าครับ โดยที่พบเจอทั่วๆไปก็จะมีอยู่ 5 ประเภทครับ

1.Hall จะให้เสียงในลักษณะที่มีบรรยากาศเป็นห้องขนาดใหญ่ครับ เช่น โบสถ์หรือโรงละคร

2.Room จะให้เสียงในลักษณะที่บรรยากาศเป็นห้องครับ(ห้องทั่วๆไป) ห้องครัว ห้องนอน

3.Chamber จะให้เสียงในลักษณะพิเศษครับ เพราะต้นตำรับมันเกิดจากห้องที่ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ใส่วัสดุ ออกแบบ acoustic ภายในห้องให้มันมีเสียงสะท้อนยาวๆ เช่น ห้องน้ำ(ที่มีกระเบื้อง ผนังเรียบ) หรือวางพวก acoustic equipment เพื่อทำให้เกิดเสียงสะท้อนเยอะๆ(บ้างก็ทำให้มันแปลกๆ)ครับ

4.Plate จะให้เสียงในลักษณะที่เป็นการสั่นสะเทือนของแผ่นเหล็กครับ เพราะเสียงมันมาจากแผ่นเหล็ก หลักการก็ส่ง source ผ่านการสั่นสะเทือนให้สั่นผ่านแผ่นเหล็ก แล้วก็มี transducer ไว้รับเสียงที่สั่นผ่านแผ่นเหล็กอีกที

5.Spring จะให้เสียงในลักษณะที่เป็นการสั่นสะเทือนของลวดสปริงครับ เพราะเสียงมันเกิดมาจากลวดสปริง รีเวิร์บประเภทนี้ในปัจจุบันยังพอมีให้เห็นของจริงอยู่บ้างใน amp กีต้าร์ที่เป็นรุ่น vintage ครับ

นอกเหนือจากนี้ผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรเหมือนกันครับ จะเจอบ่อยมากที่อยู่ในรูปแบบของปลั๊กอิน การทำงานก็จะอยู่ในรูปแบบที่นอกเหนือจากที่ผมเล่ามาทั้งหมด เสียงก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะพิเศษของมัน

😎 ทีนี้ผมจะเล่าถึง parameter ทั่วๆไปที่จะเจอบนรีเวิร์บเอฟเฟคนะครับ- Type แน่นอนครับ มันคือประเภทของรีเวิร์บที่ผมเล่าไว้ข้างบน โดยปกติจะต้องมีให้ตั้งครับ ยกเว้นปลั๊กอินบางตัวที่กำหนด type มาอย่างตายตัว หรือเป็นรีเวิร์บแบบพิเศษเฉพาะ จะเลือกไม่ได้- Size คือ ขนาดของห้อง- Diffusion คือ ความกระจัดกระจายของเสียง ยิ่งค่านี้เยอะจะทำให้เสียงรีเวิร์บเราไม่ชัดครับ ใช้ในกรณีที่เราไม่ต้องการให้เสียงรีเวิร์บมันชัดเกินไป เช่นเสียงร้อง เราไม่ต้องการให้เสียงรีเวิร์บมันชัดเป็นคำๆมากวนเสียงร้อง source เป็นต้น- Pre-Delay คือ ค่าเวลาก่อนที่รีเวิร์บจะเริ่มมีการสะท้อนครับ ถ้าเราตั้งเป็น 0 รีเวิร์บจะสะท้อนทันที พูดอีกแบบนึงก็คือระยะเวลาจาก source ที่เดินทางไปกระทบกับผนังห้องหรือวัสดุในห้องก่อนสะท้อนกลับครับ ยิ่งค่านี้เยอะเท่าไหร่ก็จะให้ความรู้สึกเหมือนเรายืนอยู่ไกลจากผนังห้องมากเท่านั้น- Early Reflection คือ เสียงสะท้อนที่ตีกลับมาหาเราระยะแรกครับ- Tail คือ เสียงสะท้อนหลังจากเกิด early reflection ครับ - Decay ค่าเวลาของรีเวิร์บทั้งหมด ที่รวมทั้ง early reflection และ tail พูดง่ายๆคือความยาวของรีเวิร์บครับ บางยี่ห้อก็เรียก Time, Length- Damping ค่าการดูดซับความถี่สูง คือยิ่งมากความถี่สูงจะยิ่งอ่อนแอ ให้นึกถึงสภาพความเป็นจริงว่าความถี่สูงในห้องถูกวัสดุต่างๆดูดซับ รวมถึงค่าพลังงานของความถี่สูงมันต่ำลงครับ ดังนั้นถ้ายิ่งเพิ่มค่านี้เท่าไหร่ ความถี่สูงจะหายไปเท่านั้นนั่นเอง

ผมจะไม่พูดถึงว่ารีเวิร์บแบบไหนเหมาะที่จะใช้กับเสียงอะไรนะครับ เพราะโลกแห่งการสร้างสรรค์ผลงานมันไม่ได้จำกัดอยู่แล้วว่าเราจะต้องใช้รีเวิร์บแบบไหน เพราะมันอยู่ที่ความพึงพอใจความต้องการของเราล้วนๆครับ 🙂 โดยการใช้งานเนี่ยเราจะต้องดีไซน์ก่อนว่าเราต้องการรีเวิร์บแบบไหน ระยะเวลาเท่าไหร่ สภาพแวดล้อมของรีเวิร์บเป็นยังไง ซึ่งถ้าหากเราเข้าใจถึงการเกิดเสียงสะท้อน เข้าใจถึง parameter ต่างๆของมันตามที่ผมได้เล่ามาข้างบน มันก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายทันที

สำหรับบทความนี้ผมก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้นะครับ ก็ขอฝากทิ้งท้ายไว้ว่า “ความรู้ความเข้าใจมีไว้เนรมิตจินตนาการและความต้องการของเรา” ขอให้สนุกกับการสร้างสรรค์ผลงานครับ 🙂